มีบ้าน แต่อยู่ไม่ได้…
มีรถ แต่ขับไม่ได้…
มีเงิน แต่ของไม่มีให้ซื้อ…
และที่สำคัญ เรากำลังตกอยู่ในสภาพความหวาดกลัว ว่าน้ำจะมาท่วมบ้านเมื่อไหร่…
นี่คือสภาพของเมืองไทยที่กำลังเกิดขึ้น ณ เวลานี้ ปีนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในปีที่น้ำท่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ชาวบ้านทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพ ฯ โดนกันทั่วทุกหัวระแหง เรียกได้ว่า ธรรมชาติกำลังเอาคืน แบบจัดหนักและจัดเต็ม
แต่แทนที่เราจะทนอยู่กับความหวาดกลัว ว่าน้ำจะมาเมื่อไหร่ มาแรงไหม และต้องอพยพอย่างไร เราลองใช้สติมาลองทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของน้ำกันดีกว่า
น้ำเป็นของเหลว มันต้องไหลไปที่ไหนสักที่ แม้ว่าเราจะสร้างสิ่งกีดขวาง เพื่อขัดขวางมันไม่ให้เข้ามา หรือพยายามจะเปลี่ยนทิศทางให้มันไปทางอื่น ความจริงหนึ่งอย่างที่เราต้องไม่ลืมก็คือ น้ำมันจะต้องหาทางไปของมันเองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ทุกวันนี้เราจมอยู่กับข่าวสาร ปล่อยให้มันกรอกหูและสร้างความหวาดกลัวให้กับเรา หลายคนยอมรับว่าเครียดว่ากลัวไม่มีบ้านบ้านจะอยู่ รถจะจมไหม เป็นห่วงพ่อแม่ ไม่รู้จะต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่นับต่อจากนี้ หรือแม้แต่ว่าวันนี้น้ำจะมาหรือยัง จะถึงคิวเราอพยพแล้วใช่ไหม
นี่คือข้อเสนอของประชาชนคนหนึ่ง…
ในเมื่อน้ำมันต้องท่วม อยากให้รัฐบาลและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ออกมายอมรับและประกาศเตือนประชาชนให้ได้รู้และยอมรับกับสภาพที่เกิดขึ้น อย่าบอกว่าไม่ท่วม เราควมคุมได้ แต่จริง ๆ แล้วมันต้องท่วม นี่คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับทุกพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดภาคเหนือไล่ลงมา
ตอนนี้เชื่อว่าพวกเราทุกคนไม่ต้องการอะไร…
นอกจากความจริง…
ถ้ามันจะท่วม ท่วมเมื่อไหร่…
นานแค่ไหน…
การซื้อเวลา หรือการขายผ้าเอาหน้ารอด ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะเสียกับเสีย อยากให้รัฐบาลลองหันกลับไปย้อนดูกับไม่กี่เดือนที่ผ่านมากับการบริหารประเทศของท่าน
และเมื่อเรายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เมื่อนั้นเชื่อว่าสัญชาติญาณการเอาตัวรอดของทุกคนจะได้เอาออกมาใช้กันเต็มที่ ว่าเราจะกินจะอยู่จะใช้กันอย่างไร กับระยะเวลา (ที่รัฐบาลต้องบอกความจริง) ที่เราจะต้องตกอยู่ในภาวะน้ำท่วมบ้าน
ออกมายอมรับความจริง
และพูดความจริง
ณ เวลานี้กันดีกว่า