หลังกลับจากการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ รีบโยนกระเป๋าเข้าบ้าน รุ่งขึ้นได้ฤกษ์เป็นวันแรกที่ได้เดินทางเข้าพื้นที่ ๆ โดนน้ำท่วมในเขตสายไหม ซึ่งถูกประกาศเป็นหนึ่งในพื้นที่อพยพ ภารกิจในวันนั้นคือจะเอาอาหารเข้าไปให้คุณแม่, ช่วยเหลือลูกแมว 2 ตัว, และเข้าไปรับคนอีก 2 คน
เราออกจากบ้านกันตั้งแต่เช้า นัดเจอกันที่ศูนย์ลูกเรือของบริษัทการบินไทย แถวสนามบินสุวรรณภูมิ การเดินทางเข้าไปในพื้นที่ คงจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าขาดความช่วยเหลือจากชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนของลูกเรือ ซึ่งรวมตัวกันเพื่อออกไปช่วยเพื่อนลูกเรือด้วยกัน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ในตอนนี้
วันนั้นกลุ่มของเราเดินทางด้วยรถสิบล้อ และมีเรือยางเตรียมพร้อมอยู่ข้างหลัง ในกรณีที่ระดับน้ำสูงมาก จนรถไม่สามารถเข้าได้ อุปกรณ์เพียบพร้อมแบบนี้ เป็นเพราะภารกิจของเราในวันนั้น ไม่มีคำว่าเข้าไปไม่ได้ เพราะเราจำเป็นต้องส่งอาหารเข้าไป แมวที่กำลังรอพวกเราอยู่ และเพื่อนอีก 2 คนที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนักจนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองได้แล้ว
บรรยากาศสองข้างทาง จากที่เราเคยเห็นถนนยาวสุดลูกหูลูกตา ตอนนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็นทุ่งน้ำเวิ้งว้าง มีผู้คนเดินลุยน้ำอยู่บ้าง คนส่วนใหญ่ต้องสัญจรไปมาด้วยรถบรรทุก เรือพายหรือไม่ก็เรือหางยาว มีชาวบ้านยืนอยู่ตามรายทาง
มีการตะโกนถามบ้างประปรายว่า…
มีอาหารและน้ำเข้ามาบ้างหรือไม่…
ได้ยินแล้วสะอึกและบางช่วงก็น้ำตาคลออย่างห้ามไม่ได้…
วันนั้นกลุ่มของเราใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 ชั่วโมง ในการช่วยเหลือ 3 ครอบครัว เริ่มจากเดินทางเข้าไปเอาลูกแมวออกมา 2 ตัว ในหมู่บ้านที่เข้าไปยังไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก เพราะมีการสูบน้ำออกจากพื้นที่อาศัยอย่างหนัก
แต่ข้างหน้าหมู่บ้านนั้นไม่ต้องพูดถึง น้ำลึกประมาณเอว แต่ยังเห็นคนเดินลุยน้ำอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้เรือเป็นยานพาหนะมากกว่า ลูกแมว 2 ตัวออกมาด้วยสภาพตัวสั่น คงจะเป็นเพราะถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังนานเกินไป แต่ทุกอย่างดูโอเคและอาจจะใช้เวลาสักหน่อยที่จะเยียวยาเจ้าแมวสองตัวนี้ ให้กลับมามีสภาพจิตใจที่แข็งแรงเหมือนเดิม
จากนั้นเราเดินทางต่อไปเอาอาหารให้คุณแม่ของน้อง แต่แถวเพิ่มสินมุ่งหน้าห้าแยกวัชรพล บางช่วงน้ำลึกเกินกว่าที่รถของเราจะเข้าไปได้ ต้องตัดสินใจกลางคันว่าต้องถอยรถกลับ แล้วอ้อมออกมาทางรามอินทราอีกครั้ง กลุ่มลูกเรือตัดสินใจไม่ใช้เรือในภารกิจครั้งนี้ เพราะว่าบางช่วงน้ำก็ไม่ลึกจนเกินไปนัก แต่เรามีข้าวของที่ต้องเข้าไปส่งหนักพอสมควร เพราะฉะนั้นจึงเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ในการที่จะถอยหลังกลับ แล้วอ้อมรถมาอีกทางด้านหนึ่ง
แต่สภาพแถวถนนวัชรพลนั้น เรียกได้ว่าน้ำเต็มพื้นที่ บางช่วงลึกพอสมควร มีรถทหารและรถของเอกชนเข้ามาช่วยประชาชนแถวนั้นอยู่บ้าง พวกเราพยายามเข้าไปจนถึงที่หมาย ทั้ง ๆ ที่ระหว่างทาง หลายคนคงหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะไม่แน่ใจว่ารถจะสามารถลุยเข้าไปได้หรือไม่
เสร็จสิ้นภารกิจวันนั้น ด้วยการไปรับลูกเรืออีก 2 คน ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลึกที่สุด และแล้วด้วยความตั้งใจของทุกคน พวกเราทำภารกิจเสร็จสิ้นเมื่อตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ภาพสะท้อนของดวงอาทิตย์สีส้มตีแผ่ออกไปทั่วท้องน้ำ ถ้าไม่ใช่เวลาที่ทุกคนกำลังเดือดร้อนอยู่ขณะนี้ คงจะทำให้เรารู้สึกว่า เป็นภาพที่สวยงามของธรรมชาติภาพหนึ่ง
อารมณ์นี้คงต้องยืมคำพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์มาใช้ว่า
“พวกเราต้องอดทนนะ เพราะมีสิ่งสวยงามกำลังรอเราอยู่ข้างหน้า”
อดทนแล้วมันจะผ่านไป เหมือนทุก ๆ เรื่องที่ผ่านมา