เรือกลายเป็นพาหนะสำคัญช่วงน้ำท่วม (เครดิตรูปจาก www.nationmultimedia.com) |
ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส และในทุกโอกาสย่อมมีวิกฤต…
คนฉวยโอกาส ขณะที่หลายคนกำลังตกอยู่ในวิกฤต…
มีหลายวิกฤต ที่ทำให้คนบางคนกลายเป็นฮีโร่…
และมีคนหลายคนเอาวิกฤต มาหาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง…
เขียนเรื่องวิกฤตกับโอกาสอาทิตย์นี้ เพราะเห็นข่าวคราวเรื่องน้ำท่วมบ้านเรา ซึ่งมีทั้งคนตกอยู่ในวิกฤต และคนรู้จักสร้างวิกฤตให้เป็นโอกาส
น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่ข่าวออกใหม่ ๆ สื่อมวลชนทุกแขนง ได้เกาะติดสถานการณ์ และลงพื้นที่พร้อมกับเสนอข่าวทุกแง่ทุกมุม ไม่ว่าจะอ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ติดตามในอินเตอร์เนต เฟสบุ๊ค หรือแม้แต่ในทวิตเตอร์
การรายงานสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ให้เราเห็นด้วยตา และสัมผัสได้ด้วยใจว่า คนไทยไม่เคยทิ้งกัน แม้เราจะเพิ่งฟื้นตัว (แบบค่อยเป็นค่อยไป หรืออาจจะเป็นช่วงคลื่นใต้น้ำก็อาจเป็นได้) จากสงครามสีเสื้อกันมาไม่กี่เดือนนี่เอง
ความช่วยเหลือหลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย…
นับเป็นเรื่องน่าดีใจ…
แต่ตอนนั้นก็แอบคิดในใจว่า ความช่วยเหลือทั้งทางด้านตัวเงินและสิ่งของจะเข้าไปถึงทุกชุมชนที่เดือดร้อนทั่วถึงหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาว่า มีคนบริจาคของไป แต่ของส่งไม่ถึงมือชาวบ้าน
พอตอนนั้นคิดแบบนี้ รีบเขกหัวตัวเองและพูดอยู่ในใจว่า ไอ้เราไปเอาความคิดในแง่ลบและร้ายสุดโต่งแบบนี้มาจากไหน พร้อมกับภาวนาอย่าให้มันเกิดเลย
แต่อีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมา เริ่มมีข่าวแบบที่เรากลัวออกมาเป็นระยะ ๆ มีหลายหมู่บ้านที่เดือดร้อนจริง ๆ แต่ความช่วยเหลือไม่เคยเข้าไปถึง หรือไปถึงแล้วแต่คนที่มีหน้าที่ส่งของเข้าไปช่วย อาจจะกำลังนอนหลับฝันหวาน ไม่รู้ไม่ชี้กับความเดือดร้อนของลูกบ้าน ฉวยวิกฤตอันนี้เป็นโอกาส เอาของที่คนบริจาคไปขาย เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองหน้าตาเฉย
บอกตามตรงว่าอยากจะด่าไปถึงบุพการี…
ไม่รู้มันทำกันลงคอได้อย่างไร…
แอบคิดไปเองอีกว่า เดี๋ยวเราคงได้เห็นนักการเมืองบางคนไปเสนอหน้าอยู่แถว ๆ นั้นบ้างแหละ อาศัยเข้าไปใกล้ ๆ สื่อมวลชนหน่อย ถือซะว่าให้วิกฤตเป็นโอกาสไปแล้วกัน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ คิดไปไกลถึงผลการเลือกตั้งครั้งหน้ามันเลยแล้วกัน
เมื่อคิดได้แบบนี้ แอบเขกหัวตัวเองไปอีกหนึ่งที…
สงสัยคงจะคิดดังเกินไป ตอนนี้เริ่มเห็นนักการเมือง ที่เห็นวิกฤตเป็นโอกาส ร้อยวันพันปีไม่เคยลงพื้นที่ ไม่เคยเสนอหน้ามาให้เห็น เริ่มทำการพีอาร์ตัวเองแบบ hard sale คือประมาณถลกขากางเกง ตัวจมอยู่ในน้ำ เดินเข้าไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับสื่อมวลชนกำลังจะรายงานสดเข้าไปห้องส่งพอดิบพอดี
เป็นการโฆษณาตัวเองแบบไม่ต้องเสียตังค์
เห็นแล้วรู้สึกสมเพชใจพิกล
หรือนี่แหละประเทศไทย ต้นตำรับปรมาจารย์สำหรับ “วิกฤต” และ “โอกาส”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น