วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หนังสือพิมพ์

เครดิตรูปจาก http://www.ads-news.com/

มีบทสนทนาหนึ่งที่บังเอิญแอบได้ยินคนสองคนคุยกันในลิฟต์เมื่อหลายปีก่อน (แต่ยังติดหูจนถึงทุกวันนี้) คนหนึ่งเป็นฝรั่งที่ทำงานกับสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ๋ที่เมืองไทย ส่วนอีกคนเป็นคนสื่อตัวจริงเสียงจริง คลุกคลีกับวงการน้ำหมึกมาเป็นสิบ ๆ ปี ถ้าเอ่ยชื่อ คนบ้าข่าวคนนี้อย่างไรทุกคนต้องรู้จัก
ฝรั่ง: ถ้าวันหนึ่งเกิดไม่มีหนังสือพิมพ์ขึ้นมา พวกเราจะทำอะไรกันดี
คนสื่อ: ผมว่ามันคงไม่ไวขนาดนั้น แต่ก็ไม่แน่อะไรก็เกิดขึ้นได้
ฝรั่ง: ผมคงต้องไปหางานอย่างอื่นทำ
คนสื่อ: ผมก็เหมือนกัน
ว่าแล้วบทสนทนาก็จบลงตรงลิฟต์เปิด แล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานกันต่อไป เชื่อว่าคงเป็นวันหนึ่งที่ทำงานกันไปแบบไม่สบายใจนัก กับทุกวันนี้ที่โลกเทคโนโลยีมันหมุนไปอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งมันน่าใจหายสำหรับคนที่รักงานหนังสือพิมพ์หรือคนที่ชอบอ่านหนังสือพิมพ์เป็นชีวิตจิตใจ
เมื่อวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมา แล้วไม่มีหนังสือพิมพ์ให้อ่าน?
จะเกิดอะไรขึ้น?
เป็นคำถามที่ติดค้างและคาอยู่ในใจตัวเองมานานมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเองอาจจะทำใจไม่ได้ เพราะอยู่ดี ๆ ใครจะมาบอกว่า วิขาเอกหนังสือพิมพ์ที่เราร่ำเรียนมาจะไม่มีอีกต่อไป เรียนกันมาตั้ง  4 ปี ออกไปฝึกฝนทำงานกันอีกหลายปี แล้วจะให้มันอันตรธานหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจะเป็นไปได้อย่างไร
แต่ตอนนี้มันก็เกือบจะเป็นไปแล้ว
ต้องยอมรับว่าหนังสือพิมพ์ทุกแห่งทั่วโลก ต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรกันขนานใหญ่ ต้อนรับการมาเยือนของการเสพข่าวสารทางอินเตอร์เนต แทนที่จะเดินออกไปซื้อหนังสือพิมพ์ทุกเช้า หรือมีหนังสือพิมพ์กองโตมาวางไว้หน้าบ้าน
ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนใหญ่จะหันไปจับสื่อดิจิตัล เอาใจการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อ่านรุ่นใหม่ ที่ต้องการข่าวที่สด ใหม่ และรวดเร็ว
ถามว่าดีไหมกับข่าวที่สด ใหม่ และรวดเร็ว? ดีมาก ๆ
แต่ถามว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นมากไหม? ก็ต้องตอบอีกเหมือนกันว่า มาก ๆ
ดูตัวอย่างที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ วันที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแถลงเรื่องเกี่ยวกับโอสามา บิน ลาเดนถูกปลิดชีพ วันนั้นทุกสื่อจับจ้องไปที่ข่าวนี้กันทั่วโลก และอยากจะเป็นที่หนึ่งทางด้านความเร็ว
Fox News ขึ้นเฮดไลน์ทันทีว่า
“Obama Bin Laden is dead”
เฮ้ย Obama หรือ Osama ความเร็วแบบนี้ก็ฆ่าตัวตายได้เหมือนกันจริงไหม
หลังจากผ่านไปหลายปี อยู่ดี ๆ วันนี้บทสนทนาวันนั้นก็เข้ามาวิ่งวนอยู่ในหัว แต่ ณ เวลานี้ดูเหมือนเราจะตอบตัวเองได้แล้วว่า หนังสือพิมพ์มันไม่ได้หายไปไหนหรอก อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจไป เพียงแต่มันแค่เปลี่ยนวิธีการสื่อสารจากน้ำหมึกเป็นดิจิตอลเท่านั้นเอง
คนสื่อก็ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่อาจจะต้องขยันเพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้โลกเราเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารที่ลอยอยู่ในโลกของอินเตอร์เนตเต็มไปหมด อันไหนจริง อันไหนเท็จ คงเป็นหน้าที่ของสื่อในการพิจารณากลั่นกรองและเสนอข่าว
โลกทุกวันนี้หมุนเร็วขึ้น เราต้องปั่นตามมันให้ทัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น