วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ดัชนีความสุข

เครดิตรูปจาก www.ytoomblog.com

ดัชนีของความสุข บางทีก็ไม่ได้วัดกันที่แก้วแหวนเงินทอง หรือตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในสมุดบัญชีธนาคาร หลายครั้งที่เราพยายามจะไขว่คว้าหามัน จนหลายหนเราลืมที่จะมีความสุขกับอะไรที่มีอยู่และวางอยู่ตรงหน้า
ย้ำกันชัด ๆ อีกทีเรื่องปรอทวัดความสุข ว่าเงินอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่ไม่ใช่สาเหตุที่สำคัญที่สุด เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนได้อ่านผลวิจัยของเอแบคโพลล์ เรื่องการจัดอันดับความรู้สึกของประชาชนต่อจังหวัดที่ อยู่แล้วเป็นสุขจากคนที่พักอาศัยอยู่ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ
ผลปรากฎว่า จังหวัดที่คนอยู่แล้วมีความสุขที่สุด คือจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนจังหวัดที่คนอยู่แล้วไม่มีความสุขที่สุด คือจังหวัดภูเก็ต ทั้ง ๆ ที่เรารู้ดีกันอยู่ว่า ภูเก็ตนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับของโลก คนที่ทำมาหากินและอาศัยอยู่ที่เมืองนี้น่าจะมีความสุขกับรายได้ที่เข้ามาเป็นกอบเป็นกำ
แต่ผลวิจัยกลับออกมาในทางตรงกันข้าม
อันนี้เห็นจะจริงตรงที่เราได้มีโอกาสไปสัมผัสภูเก็ตหลายครั้ง และครั้งล่าสุดก็เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ไปมีความรู้สึกว่า ถึงแม้จะเป็นสวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แต่คนที่อยู่ในพื้นที่จริง ๆ คงไม่มีความสุขเท่าไร อันนี้เอาดัชนีความรู้สึกของตัวเองวัดล้วน ๆ
ความรู้สึกที่สัมผัสได้อย่างแรกก็คือ คนท้องถิ่นคงอยู่ได้ยากขึ้น ท่ามกลางกระแสเงินทุนที่ไหลบ่าเข้ามาในเมืองนี้ เพื่อหวังผลกำไรแบบเต็มกอบเต็มกำ ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกกันรึเปล่านะ แต่สำหรับตัวเองรู้สึกได้ทันทีที่ไปถึง
มันเหมือนกับคนตัวเล็กกำลังจะไม่มีที่ยืนอย่างไรอย่างนั้น
เข้าใจเหมือนกันว่า นอกเหนือจากธุรกิจส่งออก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศไทย แต่ในแผนโปรโมตของการท่องเที่ยว ไม่ควรจะละเลยคนท้องถิ่นว่าเขาจะอยู่จะกินกันอย่างไรในวันที่เงินเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตคนเรามากขึ้นไปทุกที
ที่ว่าเห็นกับตาของตัวเอง ก็ตรงที่เราได้มีโอกาสเช่ารถขับ ลงไปในพื้นที่ ๆ ยังไม่ได้รับการพัฒนาบางส่วนในภูเก็ต เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงพยายาม (ต้องเรียกว่าพยายาม) ที่จะใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ท่ามกลางกระแสทุนที่ไหลบ่าเข้ามา
กระต๊อบเล็ก ๆ หลังคามุงจาก กลางหุบเขา
คนแก่ที่ยังอยู่โยงเฝ้าบ้านกับเด็ก ๆ
ขณะที่คนหนุ่มสาวต้องทิ้งบ้าน เพื่อเข้าไปทำงานในโรงแรมโก้หรู
ไม่รู้เป็นอย่างไรไอ้โรงแรมใหญ่ ๆ ในเครือหรู ๆ ไม่เคยให้ความรู้สึกที่ดีกับตัวเองเลยสักนิด ตรงกันข้ามถ้าเลือกได้ อยากจะอยู่แบบกระต๊อบเล็ก ๆ เงียบ ๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก ไอ้นี้คงแล้วแต่รสนิยมในการใช้ชีวิตของแต่ละคน
เก็บเรื่องเล่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ขณะเดินทางมาแบ่งปัน ว่าคนเดินทางอย่างเราได้ไปเห็นอะไรมาบ้าง และรู้สึกกับมันอย่างไร อย่างที่เคยบอกอยู่เสมอว่า บางทีการเดินทางไม่ได้สำคัญที่จะไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง แต่น่าจะเป็นเรื่องราวระหว่างทางที่เราไปพบเจอ ที่จะช่วยให้เรามองโลกได้กว้างขึ้นก็เท่านั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น