วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

เรียนรู้



การเรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในชีวิตของคนเรา ไม่ใช่ว่าจบจากโรงเรียน, ได้รับปริญญาแล้วจะหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรอีก เพราะถ้าเป็นแบบนั้น คงเหมือนกับเราได้ย้ำอยู่กับที่ หรือไม่ก็ถอยหลังเข้าคลอง 

บอกกับนักเรียนของตัวเองอยู่เสมอว่า การเรียนในห้องเรียนเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตมหาวิทยาลัย อย่าเอาชีวิตไปทิ้งกับมันทั้งหมด จริง ๆ แล้วมันยังมีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากภายนอกห้องเรียน และที่สำคัญอย่าไปซีเรียสกับเกรดหรือคะแนนมากจนกลายเป็นวิตกจริต 

วันนี้ที่เราเรื่องการเรียนรู้ เพราะดูเหมือนว่ามันมีอะไรที่ท้าทายเข้ามาทดสอบเราตลอดเวลา จะหลบจะหลีกอย่างไรบางทีก็หนีไม่พ้น บางทีการเรียนรู้ ถ้าเราเริ่มจากสิ่งที่เราสนใจ, จำเป็นต้องทำ, มีความรักที่จะรู้, อันนั้นจะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เร็ว ๆ นี้เริ่มทำห้องใหม่ที่บ้าน เริ่มตั้งแต่ทุบห้องน้ำ, รื้อของเก่าออก, คิดเองทำเองกัน 2 คนกับคนใกล้ตัว เรามีความฝันในหัวมาขาย มีช่างคู่ใจมาเป็นคนทำความฝันออกมาให้เราจับต้องได้ ต่างคนต่างลองผิดลองถูก ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ต่างคนต่างมีมาคุยกัน 

การเรียนรู้จึงเริ่มจากตรงนั้น…

จากตรงที่เราเองก็ไม่เคยเป็นช่าง ไม่รู้หรอกว่าอันนี้ทำได้ อันนั้นทำยาก หรือบางอันนั้นทำไม่ได้เลย ความรู้ด้านช่างของเราเท่าหางอึ่ง เท่าที่ทำได้ก็อาศัยถามคนอื่นบ้าง, ค้นคว้าเอาจากกูเกิลบ้าง, อาศัยออกไปดูงานคนอื่นบ้าง, ถ่ายภาพเก็บเอาไว้เพื่อที่จะได้กลับมาอธิบายกับช่างถูกบ้าง…

ถามว่าสนุกไหม? 

สนุกนะกับการได้ทำอะไรใหม่ ๆ แต่ก็มีความกังวลแอบซ่อนอยู่นิด ๆ ประมาณว่าเอ๊ะ! สีนี้มันแรงไปไหม, มันจะไปกันได้กับสีอื่นไหม, วัสดุที่ใช้เหมาะกับเนื้องานหรือยัง, อะไรประมาณเนี้ยะ 

แต่เชื่อไหมเมื่อถึงเวลา หลังจากที่เราค้นคว้าหาความรู้ ประกอบกับประสบการณ์ของช่างแล้วเอามาหารกัน ถึงเวลาคำตอบของมันจะมาเองว่าเราจะเอาแบบไหน เสน่ห์ของการทำบ้านมันคงอยู่ที่ตรงนี้มั้ง

อย่างตอนแรก ๆ เราบอกกับช่าง “คุณประยูร” ว่า อยากทำผนังแบบปูนขัดมันแล้วผสมสีฝุ่นสีเหลืองลงไป คุณประยูรทำหน้าปูเลี่ยน ๆ ถามคำถามแรกว่า 

“แน่ใจหรอ” 

พร้อมกันนั้นได้มีคำถามมาให้เราลองตอบมากมาย สรุปได้ใจความว่า

“งานแบบนี้มันงานศิลปะนี่น่า”

แหม คุณประยูรช่างสรุปได้เร็วดีแท้ ช่างยอมรับกับเราตรง ๆ ว่า พี่ชายของเราก็เคยพยายามจะลองทำมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่โครงการณ์ต้องพับไป เพราะทำออกมาแล้วไม่ได้อย่างที่ใจคิด แถมยังมีคำถามจากคุณประยูรว่า “ทำไมต้องปูนเปลือย”

ตอบไวเท่าความคิด ก็ศิลปะมักจะมาตอนที่เงินในกระเป๋าแฟบไงเล่า!!!

จริง ๆ แล้วงานปูนเปลือยกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ แต่ความนิยมในใจเรามันมีมาตั้งนานแล้ว เพราะรู้สึกว่าอารมณ์ปูนมันให้ความรู้สึกเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากดี แต่คุณประยูรโต้กลับว่า ช่างทำปูนเปลือยฝีมือดีหายาก 

บทเรียนบทที่หนึ่ง กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แม้ครั้งนี้จะโน้มน้าวช่างให้ทำปูนเปลือยผสมสีฝุ่นไม่ได้ แต่เรากำลังศึกษาคิดค้นหาทางให้ภาพที่อยู่ในหัวออกมาอยู่บนกำแพง ณ ที่ใดที่หนึ่งในไม่ช้านี้


อย่างที่บอก การเรียนรู้เกิดขึ้นตลอดเวลาตราบที่ชีวิตเรายังเดินต่อ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น