วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

คนคิดขบถ


เพื่อนนกน้อยในไร่ส้ม

มีเพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่า พวกเราชาวนิเทศ (เปรียบตัวเองเป็นนกน้อยในไร่ส้ม) เหมือน นกเป็ดน้ำคือว่าถามอะไร รู้หมดทุกอย่าง แต่การปฏิบัติได้ดีหรือไม่เป็นคนละเรื่องเดียวกัน หรือพูดกันง่าย ๆ ก็คือ รู้ไปหมดทุกอย่าง แต่ทำไม่ได้ดีสักอย่าง
เขาว่ากันว่า ศาสตร์ของนิเทศศาสตร์เป็นแหล่งรวมของ 3 ศาสตร์ คือ อักษรศาสตร์นิด ๆ ศิลปกรรมศาสตร์หน่อย ๆ แล้วผสมศาสตร์ว่าด้วยเรื่องสื่อสารมวลชนอยู่บ้าง
อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมอาทิตย์นี้เขียนเรื่องเกี่ยวกับนิเทศ เพราะมันมีเหตุที่มาที่ไปตรงที่ว่าเมื่อวานได้นัดเจอเพื่อนพ้องชาวนิเทศ เป็นปาร์ตี้กลุ่มเล็ก ๆ ขนาดพอประมาณ แต่เพื่อน ๆ เตือนให้เรานึกถึงภาพวันเก่า ๆ เหมือนคนเอาสมุดบันทึกมานั่งเปิดอยู่ตรงหน้า
หลังจากจบมหาวิทยาลัยกันมากันเกือบ 20 ปี เคยมานั่งสงสัยว่าทำไมเพื่อนเรา รวมแม้กระทั่งตัวเอง ถึงทำงานน้อยกว่าความสามารถที่ตัวเรามีอยู่ ถ้าเป็นฝรั่งเขาเรียกว่า working under capacity มาถึงตรงนี้ทำให้ไม่แน่ใจว่า
จริง ๆ แล้ว เรามีความสามารถกันจริงหรือ
หรือเป็นโรคขี้เกียจส่วนตัว
หรือเป็นคนที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบองค์กรและเพื่อนร่วมงานได้
หรือเป็นพวกมีไอคิว แต่ไม่มีอีคิว
หรือเป็นพวกมั่นใจเกินเหตุ
หรือเป็นบ้าอะไร
จะว่าไปเหมารวมชาวนิเทศก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะก็เห็นรุ่นอื่นประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงกันไปไม่น้อย เอาให้เน้น ๆ ไปเลยดีกว่า ชี้เฉพาะเจาะจงไปเลยว่ามันเป็นเฉพาะกลุ่มนี้ก็แล้วกัน
ที่คิดได้อยู่อย่าง แต่อาจจะเป็นการคิดที่เข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย ตรงที่ว่าเราเป็นพวกคิด ขบถชอบคิดอะไรที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขา คนอื่นว่าซ้าย ไอ้นี่ต้องว่าขวา คนอื่นเขาว่างานมาให้รีบทำ ไอ้นี่ตอบกลับว่างานมาช่างมัน เลือกอันที่ชอบทำไว้ก่อน ได้เงินหรือไม่ได้เอาไว้คิดทีหลัง คนอื่นว่าต้องวิ่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไอ้นี่ต้องว่าขอขับอยู่บนถนนราดยางดีกว่า
วิธีการคิดหลายอย่าง เชื่อว่าคนปกติคงไม่เข้าใจ
ที่เขียนแบบนี้ไม่ใช่จะบอกว่าพวกเราเจ๋ง พวกเราเก่ง
ความรู้สึกจริง ๆ กลับตรงข้ามต่างหาก เพราะหลายครั้งที่เราเองแอบมานั่งคิดถึงชีวิตของเพื่อน ๆ พวกนี้ ทำให้นึกสงสารทั้งตัวเองและทั้งเพื่อนว่า ถ้าลดความเป็นตัวเองลงมาหน่อย พวกเราคงจะไปได้ไกลกว่านี้ และประเทศชาติคงจะเจริญก้าวหน้ามากกว่านี้ ถ้าเรารู้จักทำงานกันตามระบบฟันเฟืองที่มันควรจะหมุนไปในแบบที่มันควรจะเป็น
คิดแปลกแยก คิดต่าง ไม่เข้ากับระบบ บางครั้งรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อย ที่จะอธิบายให้ใครต่อใครฟังว่า เราทำอะไรอยู่ กระบวนความคิดในสมองเป็นอย่างไร ทำไมถึงไม่เป็นแบบนี้ ทำไมถึงไม่เดินไปแบบนั้น
เท่าที่ตอบได้แบบทื่อ ๆ ก็คือ ทำแล้วมันไม่มีความสุขไม่อยากทำ
หนัก ๆ เข้า ไม่อธิบายดีกว่า ปล่อยให้มันเป็นคำถามลอยผ่านลมไป
ต้องขอบคุณเวลาที่หมุนวันคืนดี ๆ กลับมาให้เราได้เจอเพื่อนอีกครั้ง อย่างน้อยการพบกันครั้งนี้ก็ทำให้รู้สึกว่า อย่างน้อยก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งเข้าใจว่า เรากำลังคิดอะไรหรือกำลังจะพยายามสื่อสารอะไรกับคนข้างนอก และที่สำคัญทำให้เรารู้สึกว่า เรายังมีพื้นที่เล็ก ๆ ให้เรายืนอยู่ต่อไปได้แบบหันไปก็เจอเพื่อนที่พูดภาษาเดียวกัน ขอบคุณ ๆ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 กันยายน 2553 เวลา 06:30

    ภาษาอุอุ ขาดๆเกินๆอ้ะเหรอ? 55
    กันมาแวะดู

    ตอบลบ