เครดิตรูปจาก http://www.theaustralian.com.au/ |
เราคงเคยได้ยินหลายคนพูดว่า “อิสรภาพ” เป็นสิ่งที่หอมหวาน…
แต่สำหรับเรา “อิสรภาพ” เหมือนขนมหวานมากกว่า…
คืออร่อยกับมันได้บ้าง แต่ถ้ามากเกินไปฟันก็อาจจะผุเอา…
อิสรภาพก็เช่นกัน มันคงจะต้องมีขอบเขตตามที่มันควรจะเป็น…
ตามพจนานุกรม ในความหมายทั่วไป คำว่า “อิสรภาพ” หมายถึง สภาวะที่เป็นอิสระ ไม่ถูกจำกัด ไม่ถูกกักขังหรือถูกตีตรวน
เหตุการณ์ที่อิยิปต์ในขณะนี้ อาจจะทำให้เราเข้าถึงจิตใจของมนุษย์ ที่จำเป็นต้องลุกขึ้นต่อสู้ ดิ้นรน ฟาดฟัน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นอิสระจากการกดขี่ของชนชั้นที่มีอำนาจ
ภาพที่คนหลายล้านคน ออกมาเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนในกรุงไคโร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอิยิปต์ เป็นภาพที่ดูแล้วเชื่อว่าถ้าทุกคนได้เห็น จะรู้สึกเศร้าสลดไปกับเหตุการณ์นองเลือด ครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของชนชาติอาหรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ชอง ชาก รุสโซ กล่าวว่าสภาพที่เป็นอิสระนั้น เป็นสิ่งที่ติดมากับความเป็นมนุษย์ เป็นหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการมีวิญญาณและร่างกาย ผลสืบเนื่องก็คือการปฏิสัมพันธ์ต่อมาหลังจากการเกิด ล้วนแต่เป็นการสูญเสียความเป็นอิสรภาพไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งโดยความสมัครใจและไม่สมัครใจ
ทุกวันนี้เรามีอิสรภาพกันแค่ไหน?
หรือเปรียบเปรยกันแบบง่าย ๆ เรากินขนมหวานมากหรือน้อยเกินไปรึเปล่า?
หลังจากที่เราใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามาหลายปี ต้องถือว่าคนของเขาใช้อิสรภาพกันอย่างชุ่มปอด จนบางครั้งเราเองรู้สึกว่ามันมากเกินไปรึเปล่า กับการกินขนมหวานแบบนิวยอร์คชีสเค้กกันตลอดเวลา
ระบบรีฟันด์ ที่มักจะถกเถียงกันบ่อยครั้งในหมู่คนไทยว่า ถ้าระบบนี้เอาไปใช้ในเมืองไทย ธุรกิจของเราคงจะมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง อันนี้ก็ไม่ถียง เพราะพี่ไทยคงเดินชักเท้าคืนของกันเป็นว่าเล่น แต่บางครั้งเราเองก็รู้สึกว่าคนอเมริกันเองก็ใช้สิทธิ์นี้กันมากเกินไป
อย่างพวกเสื้อผ้าที่ซื้อไปแล้วไม่ชอบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สามารถเอาไปคืนได้ แต่บางทีก็มีคนหัวใส ซื้อเอาไปใส่ ใส่ไม่ใส่เปล่าแถมเอาไปซักอีกต่างหาก แล้วเอาไปคืนเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน เลยเป็นภาพที่เราคุ้นตาตามเคาน์เตอร์คืนของ อาจจะมีการทะเลาะกันบ้างเล็กน้อยเมื่อมีการซักถามถึงสาเหตุที่ต้องการคืนของ
และสุดท้ายก็จะจบลงตรง
“ดิส อิส มาย ไรท์”
“ดิส อิส มาย ฟรี ด้อม”
ถามหน่อยเถอะมันฟรีด้อมยังไง (ฟร่ะ) ก็ยูไปทำข้าวของเขาเสียหาย เสื้อผ้าที่ซักแล้ว ๆ เอาไปคืน นั่นหมายความว่า เขาไม่สามารถเอาไปขายต่อได้ นี่ยูกำลังทำให้คนอื่นเดือนร้อนนะเนี่ย
มีตัวอย่างการใช้อิสรภาพของคนอเมริกันมากมาย ที่ได้ยินแล้วบางทีก็ขำ ๆ แต่บางทีก็ขำไม่ออกอยู่หลายเรื่อง อย่างลูกค้าที่ร้านก็มีอยู่หลายคนที่เอ็นจอยกับคำว่าอิสรภาพกันแบบฟุ่มเฟือย ไม่ชอบ ไม่อร่อย (แต่กินหมด) และไม่จ่ายมีกันให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน
ถึงได้บอกว่า ถ้าอิสรภาพเป็นของหวาน เราต้องรู้จักกินมันให้พอดี ๆ อย่าตะกละมูมมามจนพาลทำให้เราต้องไปพบหมอฟันกันบ่อย ๆ
เอาให้มันแบบพอดี ๆ ก็แล้วกันดีไหม?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น