อาจารย์เก่ง เก่งสมชื่อ |
ชีวิตของแต่ละคน ต่างมีแง่มุมและมิติที่แตกต่างกันไป ไม่เพียงแต่เราไม่อาจไปตัดสินชีวิตใครได้แล้ว เราอาจจะยังต้องเคารพสิทธิ์ในการใช้ชีวิตของคนนั้น ๆ ด้วย ความเหมือนในความต่าง และความต่างในความเหมือน
ต่างมีแง่มุมของมันจนยากจะอธิบาย…
อะไรคือสิ่งที่ใช่, ไม่ใช่, ถูก,ไม่ถูก…
หรือแม้แต่เราเองที่คิดไปว่า ชีวิตเรานั้นถ้าเปรียบเป็นเส้นกราฟ แล้วจะเป็นเส้นกราฟที่ตกขอบตลอดเวลา อันนั้นก็ยังไม่สามารถเอาความรู้สึกของเราไปตัดสินหรือนั่งในความรู้สึกของแต่ละคนได้ว่า ถ้าเป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาสวมบทบาทเป็นชีวิตของเรา เขาอาจจะมีแง่มุมที่มองไปคนละทิศทางเดียวกับเรา ไอ้ที่เราว่าตกขอบอาจจะกลายเป็นกราฟชีวิตที่มันขึ้นจนสุดขอบอีกฟากหนึ่งต่างหาก
วันนี้ได้แง่คิดและมุมดี ๆ จากเพื่อนอาจารย์ที่เอแบคด้วยกัน จากการให้สัมภาษณ์เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอ อาจารย์เก่งเป็นผู้หญิงร่างเล็ก ผิวขาว บอบบาง มองเผิน ๆ ไม่รู้เลยว่าเธอได้ผ่านชีวิตอะไรมาบ้าง
จนกระทั่งในวันหนึ่ง เมื่อน้องตะโกนออกมาจากห้องน้ำว่า
“นี่อาจารย์เก่งนี่”
ตะโกนไม่ตะโกนเปล่า พร้อมกับหยิบนิตยสารเล่มนั้นออกมาให้อ่าน พร้อมกับเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ก็มาโลดแล่นอยู่ตรงหน้า นี่คือที่มาของการสัมภาษณ์ในวันนี้ เป็นบรรยากาศที่เราคุยกันในห้องเรียน ในวันสบาย ๆ วันหนึ่งก่อนสิ้นปี ไม่รู้ตัวมาก่อนเลยว่า แม้จะได้รับรู้เรื่องราวของเธอมาบ้างผ่านตัวหนังสือ แต่ก็ยังอดมีน้ำตารื้น ๆ ออกมาช่วงขณะที่เรามีเวลาคุยกันเพียงไม่ถึงชั่วโมง
อาจารย์เก่งเล่าให้ฟังว่า หลังจากจบการศึกษาปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา มีความคิดละล้าละลังว่าจะทำอะไรต่อ จะกลับเมืองไทยหรือหางานทำและเก็บเงินสักพักต่อดี เธอใช้เวลาคิดไม่นาน เมื่อภาพข่าวได้ถ่ายทอดเรื่องราวเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นที่เมืองไทยเมื่อ 7 ปีก่อน
เหตุการณ์ครั้งนั้นมาแบบไม่ทันตั้งตัวสำหรับหลายคนรวมทั้งตัวเธอด้วย และคงจะเป็นเวลาที่เธอเองก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าจะต้องกลับบ้านเกิดเมืองนอนเสียที ด้วยความมุ่งมั่นอย่างเดียวคือ อยากกลับไปช่วยคนเหล่านั้น
กลับมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่า ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะช่วยได้อย่างไร และจะเริ่มต้นการช่วยเหลือจากตรงไหน ตอนนั้นคิดเพียงแค่ว่ากลับมาก่อน แล้วค่อยว่ากัน
เธอกลับมาและได้รับการติดต่อโดยเพื่อนว่า มีกลุ่มอาสาสมัครปักหลักอยู่ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา และยังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก ณ เวลานั้น อาจารย์เก่งไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า เก็บของใส่กระเป๋าและพร้อมออกเดินทาง (ด้วยเงินของเธอเอง) เพื่อไปยังที่สถานที่นั้นให้เร็วที่สุด
จากโครงการณ์ที่ก่อตั้งขึ้นมาด้วยแรงของอาสาสมัครล้วน ๆ เธอไม่รู้เลยว่า เธอยังคงต้องใช้ชีวิตที่นั่นอีกหลายปีต่อมา เพื่อให้โครงการณ์มันเดินไปด้วยตัวของมันเองได้ และบรรลุเป้าหมายในการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังคนที่ประสบกับภัยสึนามิครั้งนี้
ในระหว่างทางของช่วงหลายปีที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายกับชีวิตผู้หญิงคนนี้ แต่แปลกตรงที่เธอเล่าว่า เธอโชคดี เธอเน้นและพูดย้ำ ๆ บ่อย ๆ ว่าเธอโชคดี ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็นเราเองที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้น คงจะพูดไม่ออกหรือการสัมภาษณ์ในวันนี้คงจะไม่เกิดขึ้น เพราะเราเองอาจจะไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะมาตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ไม่มีใครอยากจะเล่าเรื่องฝันร้ายซ้ำ ๆ
แต่ตรงกันข้าม อาจารย์เก่งเล่าด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนอะไรที่เธอผ่านมาเป็นเรื่องขี้ผงสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ (แต่ในความรู้สึกของเรา อาจารย์เก่งเป็นคนที่หัวใจสวยมากต่างหาก) เธอบอกเคล็ดลับกับเราไว้อย่างเดียวว่า
“สติเท่านั้น จะทำให้เราผ่านมันไปได้”
สติทำให้เธอผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ขอต่อเป็นภาคสองของอาทิตย์หน้าแล้วกันนะคะ
ขอให้เรามีสติและใช้ชีวิตอย่างสุขสันต์ ในวันปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้
Merry Christmas and Have a happy New Year to you all.