ดร. วรภัทร์กับสองพิธีกรรายการเจาะใจ |
จดๆจ้องๆจะเขียนเรื่องราวของดร. วรภัทร์ ภู่เจริญมาสักพักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ฤกษ์ลงมือสักที ไม่ใช่ว่าเรื่องราวความคิดของผู้ชายคนนี้ที่มีฉายาว่า “จับฉ่ายแมน” ไม่น่าสนใจ ในทางตรงกันข้าม เรื่องของผู้ชายคนนี้ถึงกึ๋นดีทีเดียว
ลังเลที่จะเขียน เพราะหนึ่งรู้สึกว่าเขียนยาก สองกลัวเขียนแล้วไม่ครบถ้วนกระบวนความ เพราะความน่าสนใจในตัวของผู้ชายคนนี้มีหลากหลายแง่มุม (ขอย้ำว่ามาก!!) ทั้งงานทางด้านวิชาการและแนวคิดในการดำเนินชีวิต มุมมองต่อโลก มุมมองกับคน สัตว์ สิ่งของ และ ฯลฯ
ผลัดไปเรื่อยๆจนกระทั่งคืนหนึ่งกดรีโมตไปเจอรายการ “เจาะใจ” กำลังสัมภาษณ์ผู้ชายคนที่กำลังอยากจะเขียนถึงอยู่พอดี ทางรายการจั่วหัวข้อได้น่าดึงดูดมากว่า “จากองค์กรนาซ่าสู่ป่าช้าไทย” แวบแรกคิดว่าเอ๊ะ! มันมีอะไรดี ขนาดเราพอรู้จักตัวตนของผู้ชายคนนี้มาสักพักใหญ่แล้ว ยังคิดว่าน่าสนใจที่จะติดตามรายการ
เพราะการอ่าน การฟังอาจจะไม่เข้าถึงอรรถรสมากเท่ากับตัวเป็นๆมานั่งคุยผ่านหน้าจอทีวี!!!
เอาง่ายๆไปก่อนแล้วกันว่า เมื่อ 20 ปีก่อนดร. วรภัทร์เป็นวิศวกรอยู่องค์กรนาซ่า และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือเขาได้รับรางวัลงานวิจัยดีที่สุดระดับโลกเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไอพ่น
พูดถึงองค์กรนาซ่า น่าจะเป็นองค์กรที่หลายคนฝันถึงและอยากจะร่วมทำงานเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเดินทางออกไปสำรวจนอกโลก แต่มาถึงวันหนึ่งผู้ชายคนนี้ก็เริ่มสงสัยในตัวเองว่า “นี่ชีวิตเรามาถูกทางแล้วหรือ นี่คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆในชีวิตหรือ”
เรื่องนี้มันมีที่มา…
หลังจากเขาได้รับมอบหมายงานชิ้นใหม่ ให้ไปสำรวจว่าสุดขอบโลกอยู่ที่ตรงไหน ซึ่งมันอยู่ไกลถึง 450 ล้านปีแสง คำถามแรกของเขาก็คือ
“so what?”
“ไปทำไร้ (หว่ะ)??” ประมาณนั้น!
จากงานมอบหมายชิ้นนี้เอง ทำให้เขาถามตัวเองว่า มนุษย์เราต้องการจะเดินทางออกไปสำรวจนอกโลก อยากรู้อยากเห็นว่าสุดขอบโลกอยู่ตรงไหน มันมีอะไรอยู่ตรงนั้น ถ้าโลกจะแตกเราจะย้ายไปอยู่ดาวดวงไหน
เดินทางกันไปเป็นล้านๆปีแสงขนาดนั้น ทำไมกับแค่เดินทางจากร่างกายไปสู่หัวใจแค่ 1 เซ็นติเมตร เราถึงไม่เคยสนใจหรือค้นคว้ากลับเข้าไปในใจของตัวเอง อันนี้เป็นคำถามที่มีที่มาหลังจากเขาติดหิมะอยู่บ้านเพื่อนในคืนหนึ่ง และได้มีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่งของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
อันนี้พอดูสัมภาษณ์แล้วโอ้โห! โดนเลย โดนตรงที่ว่าเออ! คนเราอยากจะเดินทางไปโน่นไปนี่ บางคนอยากจะไปเที่ยวรอบโลก บางคนฝันไปไกลขนาดอยากจะเดินทางออกไปนอกโลก
แต่เราลืมไปหรือไม่เคยสนใจที่จะเดินทางเข้าไปหาข้างในร่างกายของเราเองเลย จริงๆก็แค่ 1 ซม. อย่างที่บอก แต่เราละเลยมันไป อาจจะเป็นเพราะว่าอะไรที่อยู่ใกล้มากไป เราเองอาจจะมองไม่เห็น
ดร. วรภัทร์พูดเรื่องนี้ได้อย่างน่าคิดทีเดียวในเรื่องเกี่ยวกับพุทธะ อยากให้พวกเราหารายการเจาะใจที่ออกอากาศวันที่ 21 มกราคมในปีนี้มาดูกัน เชื่อเหลือเกินว่าหลังจากดูเทปสัมภาษณ์นี้แล้ว หลายคนอาจจะเกิดไอเดียปิ๊งปั๊งขึ้นมาว่า เราน่าจะเริ่มต้นเป็นนักสำรวจได้หรือยัง
เริ่มต้นง่ายๆจากการสำรวจจากหัวใจตัวเองก่อน!!!
นอกจากเรื่องการเดินทางเข้าไปค้นหาจิตใจตัวเองแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังมีดีอีกหลายอย่าง ไว้อาทิตย์หน้ามาลองดูเขาวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษาของเมืองไทยได้ถึงพริกถึงขิง ขอบอกว่าเป็นความจริงที่สั่นสะเทือน
และภาวนาอยากให้มันเป็นคลื่นที่เข้าไปกระทบเส้นสมองของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ ครูบาอาจารย์และนักเรียนนักศึกษา พร้อมกับถามทุกฝ่ายว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังสำหรับการเปลี่ยนแปลง
(เป็นบทความตีพิมพ์ในคอลัมน์ต่างองศา วันที่ 16 มีนาคม 2553)
นั่นสิ คนเราทำไมชอบไปสนใจสิ่งอื่นนอกตัวเอง อยากปรับ อยากเปลี่ยนสิ่งโน้น คนโน้น ... แต่ลืมที่จะสำรวจใจ และเปลี่ยนที่ใจเราเอง
ตอบลบสงสัยต้องไปหยิบหนังสือของดร.มาอ่านให้จบซะแล้ว ^0^
ขอเพิ่มนิดนึงค่ะ ที่บอกว่าไปสำรวจสุดขอบโลก .. น่าจะเป็นไปสำรวจสุดขอบจักรวาลค่ะ ^^
ตอบลบ