วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เมื่อหัวใจอยากออกเดิน

หนังสือจุดประกายทางความคิด

เมื่อบ่ายวันเสาร์ของอาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เจอหนู (ไอ้หนู, อีหนู, น้องหนู หรืออะไรก็แล้วแต่) รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่า นอกจากสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นและยาวนานมากว่า 20 ปี วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีที่เราได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากคำทักทาย นั่งคุยกันสัพเพเหระไปตามเรื่องแล้ว หนูมาพร้อมกับรอยยิ้มและโยนหนังสือให้เล่มหนึ่ง แล้วบอกกับเราว่า

“ลองเอาไปอ่านดู เผื่อจะได้อะไรพี่”

หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า “ZigZag เมื่อแกะดำทำธุรกิจ” เขียนโดย ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์

คงมีคนจำนวนมาก เมื่อวันที่อายุขึ้นเลข 4 คงจะเบื่อกับอาชีพมือปืนรับจ้าง บางครั้งถึงกับออกอาการเซ็งอารมณ์กับการเป็นลูกจ้าง ต้องทำอะไรหรือตัดสินใจแต่ละที ต้องผ่านการเห็นชอบจากมติที่ประชุม คุณประเสริฐเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “Rule book”

ความคิดเห็นส่วนตัวนั้น เราว่ามันมีทั้งข้อดีข้อเสียทั้งสองอย่าง เพราะตัวเองก็ผ่านมาหมดแล้วทั้งการเป็นลูกจ้างและนายจ้าง แต่ดูเหมือนคราวนี้จะมีการคิดขบถ อยากจะหลุดนอกกรอบที่ครอบครัวได้วางไว้ให้บ้าง ถ้าจะเดินกลับไปเป็นลูกจ้างอีกครั้ง คิดว่าตัวเองคงไม่แล้ว ถ้าจะกลับไปทำธุรกิจของครอบครัวก็มีอาการเบื่อ ๆ อยาก ๆ

มันเป็นการ “ชักเย่อทางความคิด” มาสักพักใหญ่ว่า คนตัวเล็ก ๆ อย่างเรา ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจ หรือถ้าจะมีก็คงแค่หางอึ่ง จะคิดการใหญ่ก็คงไม่กล้า เงินลงทุนก็ไม่ได้หนาพอ

และเราจะทำอะไรได้บ้าง?

บนโลกธุรกิจ มีพื้นที่เล็ก ๆ ให้คนตัวเล็ก ๆ อย่างเราได้ยืนพอหายใจสบาย ๆ ได้บ้างไหม?

จะว่าไปก็เป็นเรื่องของวิตกจริตเมื่อคิดจะมีการเปลี่ยนแปลง เหมือนเราเดินอยู่บนถนนแล้วมาถึงทางแยกมั้ง มันต้องตัดสินใจว่าจะซ้ายหรือขวา จะเดินหน้าหรือถอยหลัง

ได้อ่านหนังสือที่เพื่อนรุ่นน้องให้มา มันก็เป็นการจุดประกายความคิดที่ดีเหมือนกันนะ เรื่องของการเริ่มต้นเป็นเถ้าแก่ใหม่ คงมีหลายคนมีคำถามที่ถามตัวเองบางครั้งว่า เราพร้อมที่จะเป็นเจ้าของกิจการหรือยัง? เรียกง่าย ๆ ว่า เราพร้อมที่จะเป็นเถ้าแก่ใหม่หรือยัง?

อ่านแล้วก็ได้คำตอบว่า คงไม่มีใครบอกได้ว่า เราพร้อมที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองหรือเปล่า? เพราะเรื่องนี้คงเป็นเรื่องตอบยาก แต่จะให้ตอบแบบกลาง ๆ ก็คือว่าทุกคนมีโอกาสเป็นกันได้ทั้งนั้น เพียงแต่เราจะกล้าที่จะก้าว และกล้าที่จะเสี่ยงหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง

เรื่องที่จะทำธุรกิจอะไรก็เป็นเรื่องปวดหัวอีกเรื่องหนึ่ง…

ส่วนตัวเชื่อว่า คนเราจะทำอะไรได้ดีที่สุด เมื่อเรารักและมีความสุขที่จะทำ ฝรั่งเขาเรียกว่าต้องมี passion ในการทำงาน คือต้องมีความหลงใหลอยากจะทำ เมื่อนั้นสิ่งที่ทำจะทำออกมาได้ดี การที่เราทำอะไรด้วยใจโดยไม่ถูกบังคับ เชื่อว่าผลของงานร้อยทั้งร้อยจะออกมาดีเสมอ

แต่ไอ้สิ่งที่เรารักที่จะทำ มันไม่ได้สร้างรายได้กับเรานี่ซิ…

คิดหนัก…

จะออกเดิน หัวใจก็ยังไม่เต็มร้อย จะไม่เดิน ก็ค้างคาใจอยู่นั่นแล้ว บอกตัวเองไปก่อนว่า รอเวลาให้มันตกผลึกทางความคิด เมื่อตัวเรานิ่ง ความคิดนิ่ง แล้วเราคงจะรู้เองว่าจะเดินไปทางไหน

ที่สำคัญต้องเดินตามหัวใจตัวเอง…

ปล. เขียนในวันที่มีความสับสนทางด้านความคิด ใครมีความคิดอะไรดี ๆ น่าจะดีถ้าได้มาแชร์กัน อ้อ! อีกอย่างตอนนี้ www.jirastoryteller.com ได้ฤกษ์ย้ายบ้านใหม่ ไปอยู่ที่ http://jirastoryteller.blogspot.com ติดตามกันได้ราวกับ 7-eleven! ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น